ร่างกายของคนเรา ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ล้วนต้องการแคลเซียม เพราะแคลเซียม มีส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน เสริมความสูงในเด็ก ป้องกันกระดูกพรุน นอกเหนือจากแคลเซียมแล้วยังมีสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ เช่น แร่ธาตุแมกนีเซียม,แร่ธาตุโบรอน, แร่ธาตุแมงกานีส, กรดอะมิโน, วิตามินดี , สารสกัดจากถั่วเหลือง, สารสกัดจากงาดำ เป็นต้น ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแคลเซียม ดูแลสุขภาพกระดูก ฟัน และข้อต่อต่างๆในร่างกาย ได้อย่างครบถ้วนกว่าการได้รับแคลเซียมเพียงอย่างเดียว

กระดูกมีความสำคัญ ช่วยค้ำจุนโครงสร้างของร่างกาย สร้างรูปร่างให้กับร่างกาย
ปกป้องอวัยวะที่สำคัญ และทำงานร่วมกับกล้ามเนื้อเพื่อให้เคลื่อนไหวได้ กระดูกยังควบคุมฮอร์โมน ผลิตเซลล์เม็ดเลือดและกักเก็บแร่ธาตุ

กระดูก มีส่วนประกอบต่างๆ มากมาย ไม่ได้มีเฉพาะแคลเซียมเท่านั้น แต่ยังมี เซลล์ เส้นใยคอลลาเจน และเมทริกซ์ที่มีแร่ธาตุ ดังนั้น การดูแลสุขภาพกระดูกด้วยสารอาหาร จึงต้องมีสารอาหารหลายชนิด ที่สามารถดูแลองค์ประกอบต่างๆ ของกระดูกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เป็นเส้นใยคอลลาเจน และเมทริกซ์ที่มีแร่ธาตุ โดยเส้นใยคอลลาเจน ให้ความยืดหยุ่นกับกระดูก ส่วนเมทริกซ์ที่มีแร่ธาตุ ทำให้กระดูกมีความแข็งและทนแรงต้าน มีแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยแคลเซียมและฟอสเฟต เป็นหลัก

สารอาหารที่ที่สำคัญต่อระบบ กระดูก ฟัน ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ

1.Calcium L-threonate (แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต)

เสริมสร้างมวลกระดูก สร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและข้อ ดูดซึมได้ดีกว่าแคลเซียมทั่วไปถึง 9 เท่า จึงไม่ตกค้างในร่างกาย เนื่องจากมีการดูดซึมที่ดี ไม่ตกค้าง จึงทำให้

  • ไม่ก่อให้เกิดหินปูนตามส่วนต่างๆของร่างกาย
  • ไม่ทำให้ท้องอืด ไม่ทำให้ท้องผูก ไม่ทำให้ท้องเฟ้อ
  • ไม่มีผลข้างเคียง

แคลเซียมช่วยในการทำงานตามปกติของระบบกระดูกและฟัน แคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่เป็นองค์ประกอบในกระดูก โดยอยู่ในเมทริกซ์ที่มีแร่ธาตุ ช่วยสร้างความแข็งให้กับกระดูก รักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาของกระดูก ช่วยควบคุมการเปลี่ยนแปลงของกระดูก ซึ่งเป็นกระบวนการที่เนื้อเยื่อกระดูกเก่าถูกแทนที่ด้วยเนื้อเยื่อกระดูกใหม่

ทำไมต้องเลือก!! แคลเซียมแอลทรีโอเนต จากข้าวโพด NON-GMO

2.Magnesium (แมกนีเซียม)

แร่ธาตุแมกนีเซียม เป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟันที่แข็งแรง โดยอยู่ในเมทริกซ์ที่มีแร่ธาตุ ช่วยควบคุมสมดุลแคลเซียมในกระดูกและในเลือด ป้องกันไม่ให้แคลเซียมเกาะตามเนื้อเยื่ออวัยวะต่างๆ นำแคลเซียมเข้าไปเก็บในกระดูกให้ถูกที่ช่วยให้การทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อเป็นปกติจำเป็นต่อการสร้างและบำรุงกระดูกให้แข็งแรง แมกนีเซียมยังช่วยในการดูดซึมแคลเซียมการบริโภคแมกนีเซียมที่ไม่เพียงพออาจทำให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน

3.vitamin D 3 (วิตามินดี3)

วิตามินดี จำเป็นต่อสุขภาพกระดูกและข้อ เพราะช่วยให้ร่างกายดูดซึมและใช้แคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญ 2 ชนิดที่จำเป็นสำหรับกระดูกและข้อต่อที่แข็งแรง นำแคลเซียมเข้าไปเก็บในกระดูกให้ถูกที่หากขาดวิตามินดี ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมได้อย่างเหมาะสมส่งผลให้กระดูกอ่อนแอและมีความเสี่ยงที่จะกระดูกหักเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ วิตามินดี มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งสามารถช่วยลดอาการปวดข้อและข้อแข็ง
ที่เกี่ยวข้องกับสภาวะต่างๆ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม**วิตามินดี 3 มีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินดี2ในการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือด

4.Manganese (แมงกานีส)

แร่ธาตุแมงกานีส มีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูกและข้อ จำเป็นสำหรับการสร้างกระดูกอ่อนซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ยืดหยุ่นซึ่งรองรับข้อต่อ นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ให้ความแข็งแรงและโครงสร้างแก่กระดูกและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่นๆ
นอกจากนี้ แมงกานีสยังช่วยรักษาความหนาแน่นของกระดูกให้แข็งแรง 1 ใน 4 ของผู้ที่ขาดแมงกานีสจะเป็นโรคกระดูกพรุน

5.Boron (โบรอน) แร่ธาตุโบรอน

แร่ธาตุโบรอน WHO ระบุว่าสำคัญต่อความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูก ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงเพราะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลเซียมและแมกนีเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อการรักษากระดูกและข้อต่อให้แข็งแรงโบรอนยังช่วยในการสังเคราะห์วิตามินดี ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียมรักษาสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มี ผลต่อกระบวนการสร้างกระดูกนอกจากนี้โบรอนยังช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมและแมกนีเซียมทางปัสสาวะ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้

มีการศึกษาวิจัย พบว่าการเสริมโบรอนอาจช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ และลดการอักเสบและความเจ็บปวดในผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ทั้งนี้ ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่ออธิบายถึงกลไกที่โบรอนช่วยดูแลสุขภาพข้อต่อ

6.Black Sesame Extract (สารสกัดจากงาดำ)

สารสำคัญในงาดำ คือ Sesamin(เซซามิน) ซึ่งเป็นสารประเภท Lignan (ลิกแนน)
มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบที่กระดูกและข้อ ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการสูญเสียกระดูกและดูแลสุขภาพกระดูก

7.Soy Bean Extract (สารสกัดจากถั่วเหลือง)

ช่วยรักษาภาวะปกติของกระดูก ลดการสลายแคลเซียมออกจากกระดูก เพิ่มการสร้างกระดูกสารสกัดจากถั่วเหลืองมีสารประกอบที่เรียกว่า isoflavone (ไอโซฟลาโวน) ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพกระดูกไอโซฟลาโวนเป็นไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งหมายความว่ามีโครงสร้างคล้ายกับเอสโตรเจนและสามารถเลียนแบบการออกฤทธิ์อย่างเอสโตรเจนได้

ฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำหน้าที่ในการควบคุมเซลล์สร้างกระดูก และเซลล์สลายกระดูก ให้ทำงานอย่างสมดุล แต่เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน จะเริ่มมีการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เกิดผลกระทบต่อกระบวนการควบคุมของเซลล์ทั้งสองนี้ไป ส่งผลให้มีการสร้างเซลล์สร้างกระดูกลดลง แต่มีการสร้างเซลล์ทำลายกระดูก เพิ่มมากขึ้น ผลที่เกิดขึ้นคือ มีการสลายกระดูก (bone reabsorption) มากขึ้น ทำให้เกิดโรคกระดูกบาง (osteopenia) หรือกระดูกพรุน (osteoporosis) ตามมาได้

นอกจากนี้ สารสกัดจากถั่วเหลืองยังช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมด้วย

8.5 Amino Acid (กรดอะมิโน 5 ชนิด) (L-Lysine, L-Alanine, L-Leucine,L-Arginine, L-Glutamine)

กรดอะมิโนทั้ง 5 ชนิด มีส่วนสำคัญต่อกระบวน การสร้างคอลลาเจนที่กระดูก ลดอัตราการ เกิดภาวะกระดูกหัก รักษากระดูกหักให้หายไวขึ้นกรดอะมิโน คือส่วนที่เล็กที่สุดของโปรตีน ที่ร่างกาย สามารถดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้

สั่งซื้อสินค้า โปรโมชั่น
facebook
line
Shopee mall
lazada mall

ปรึกษาเภสัชกรเจ้าของแบรนด์

สอบถาม / ติดตามข่าวสาร / สมัครสมาชิก

Line : @enelthailand (มี “@” นำหน้าด้วยน๊า)