Vitamin K2
วิตามินเค2 มีประโยชน์มากมาย แต่ประโยชน์ที่โดดเด่นที่สุดและมีงานวิจัยต่างๆสนับสนุนมากขึ้นในปัจจุบัน คือ เรื่องกระดูก และหลอดเลือด เพราะเป็นวิตามินที่จะนำแคลเซียมไปเก็บที่กระดูก เรียกได้ว่า แคลเซียมไปอยู่ถูกที่ ไม่เกาะตามหลอดเลือดและเนื้อเยื่อต่างๆ
คีย์สำคัญ
- ป้องกันกระดูกพรุน เพิ่มมวลกระดูก เพิ่มความแข็งแรงกับกระดูก
- ป้องกันแคลเซียมหรือหินปูนเกาะหลอดเลือด จึงป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
Vitamin K2 ปริมาณที่แนะนำให้บริโภคในแต่ละวัน
- ไม่มีกำหนดไว้
- ไม่มีค่าสูงสุดที่บริโภคได้ เพราะค่อนข้างปลอดภัยแม้มีการใช้ขนาดสูง
- แนะนำ100 – 300ไมโครกรัม/วัน
Vitamin K2 ในอาหารมีเท่าไหร่ ?
แหล่งอาหารที่มี Vitamin K2 สูง แสดงปริมาณ Vitamin K2 ในอาหาร 100 กรัม
- Natto (นัทโตะ) 1,103 ไมโครกรัม
- Goose Liver (ตับห่าน) 369 ไมโครกรัม
- Hard Cheese (ชีสแข็ง) 76 ไมโครกรัม
- Soft Cheeses (ชีสนุ่ม) 56 ไมโครกรัม
- Goose Leg (ขาห่าน) 31 ไมโครกรัม
- Butter ( เนย) 20.9 ไมโครกรัม
อ้างอิง : – Food sources of k2 vitamin Journal of Pharmaceutical and Biological Sciences
ข้อสังเกต! อาหารที่มีวิตามินเค2 สูง ได้จากสัตว์และมีไขมันสูงเช่นกัน ยกเว้นนัทโตะที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารที่นิยมในชีวิตประจำวัน มี Vitamin K2 เท่าไหร่ ? แสดงปริมาณ Vitamin K2 ในอาหาร 100 กรัม
- 2 Eggs (ไข่ไก่ 2 ฟอง) 8 ไมโครกรัม
- Chicken Liver (ตับไก่) 14 ไมโครกรัม
- Chicken Breast (อกไก่) 8.9 ไมโครกรัม
- Whole Milk (นมสด) 1 ไมโครกรัม
- Salmon (ปลาแซลมอน) 0.5 ไมโครกรัม
- Egg White (ไข่ขาว) 0.4 ไมโครกรัม
- Skim Milk (นมพร่องไขมัน) ไม่มี
อ้างอิง : – Food sources of k2 vitamin Journal of Pharmaceutical and Biological Sciences
ข้อสังเกต! ต้องกินไข่ไก่วันละ 25 ฟอง , นมสดวันละ 10 ลิตร ,ปลาแซลมอน 20 กิโลกรัม จึงจะได้รับวิตามินเค2 ตามความต้องการขั้นต่ำ 100 ไมโครกรัม/วัน ซึ่งในชีวิตประจำวันไม่สามารถทำได้
บทสรุป
คนส่วนใหญ่ขาดวิตามินเค2 เพราะในแหล่งอาหารปกติมีน้อย และนอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตที่ทำให้โพรไบโอติกส์ลดจำนวนลง จึงผลิตวิตามินเค2 ไม่ได้ รวมถึงการใช้ยาปฏิชีวนะบ่อย
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง