บทความสุขภาพ, สุขภาพกระดูกและข้อ
ควรทานแคลเซียมตอนไหนดี?
ควรทานแคลเซียมตอนไหนดี?
กรณีที่ 1) แคลเซียมส่วนใหญ่ในท้องตลาด
ต้องอาศัยความเป็นกรด ช่วยในการแตกตัว และดูดซึม เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต แตกตัวยาก ละลายน้ำยาก ทำให้การดูดซึมน้อย
ดังนั้นจึงควรทานแคลเซียมชนิดนี้ หลังอาหาร เพราะช่วงเวลาหลังอาหาร มีอาหารอยู่ในกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารเป็นกรดสูงสุด
หลังอาหาร ในทางการแพทย์ คือ หลังอาหารทันที หรือหลังอาหารกี่นาทีก็ได้ ไปจนถึง 1 ชม. หรือ 1ชม.ครึ่ง โดยประมาณ คำว่า ทานหลังอาหารทันที หรือทานพร้อมอาหาร ก็คือความหมายเดียวกัน แต่จุดสงค์ที่ใช้ คือ ใช้กับยาหรือสารอาหารบางชนิดที่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร จะเห็นว่า หลังอาหารทันที กับพร้อมอาหาร คือระยะเวลาสั้นๆ ของหลังอาหารนั่นเอง
ข้อจำกัดของแคลเซียมที่ต้องอาศัยความเป็นกรด ช่วยในการดูดซึม ทำให้ผู้ผลิตอาหารเสริมบางที่ มีการใส่สารที่มีฤทธิ์เป็นกรดในผลิตภัณฑ์ กลายเป็นรูปแบบเม็ดฟู่ หรือแบบผงละลายน้ำ
กรณีที่ 2) แคลเซียมแอลทรีโอเนต จากข้าวโพด
เป็นแคลเซียมที่มีคุณสมบัติละลายน้ำดีมากอยู่แล้ว ดูดซึมได้ดี โดยไม่ต้องอาศัยกรดในกระเพาะอาหาร ไม่ต้องอาศัยวิตามินดี ในการดูดซึม สามารถทานเวลาใดก็ได้
แคลเซียมแบบเม็ดปกติ, เม็ดฟู่ หรือผงละลายน้ำ ให้ประโยชน์ต่างกันมั้ย?
คำตอบ :
เนื่องจากการทำในรูปแบบเม็ดฟู่ หรือผงละลายน้ำ มีจุดประสงค์เพื่อช่วยการละลายของแคลเซียมที่ละลายน้ำยาก ก็คือแคลเซียมคาร์บอเนต
ดังนั้นให้พิจารณาที่แคลเซียมคาร์บอเนตเหมือนกัน รูปแบบเม็ดฟู่ และแบบผงละลายน้ำ ย่อมดีกว่าแบบเม็ดปกติ แต่ถ้ากรณีเป็นแคลเซียมที่มีคุณสมบัติละลายน้ำดีอยู่แล้ว อย่างแคลเซียมแอลทรีโอเนต เป็นเม็ดฟู่ ผงละลายน้ำ หรือเม็ดปกติ ได้ประโยชน์เท่ากัน เพราะการละลายน้ำดีอยู่แล้วในตัวเอง
ไม่ควรกินแคลเซียมพร้อมอะไร? เพราะจะลดการดูดซึมของแคลเซียม
1. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
2. ธาตุเหล็กปริมาณสูง ซึ่งมักอยู่ในยาธาตุเหล็กหรืออาหารเสริมบางชนิด แต่ถ้าเป็นธาตุเหล็กจากการทานอาหารปกตินั้นไม่เป็นไร
3. ยา มียาหลายชนิดเลยค่ะ โดยเฉพาะยาลดความดัน ยาปฏิชีวนะ
สารประกอบที่ไม่ดูดซึม ไม่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ทำให้ทั้งแคลเซียม และสารนั้นๆ หรือยานั้นๆ ไม่ถูกดูดซึม หรือดูดซึมน้อยลง
เรียบเรียงข้อมูล โดย ภญ.มหิดล นวพร สุขเดโชสว่าง (เภสัชกรมดน้อย)
