แคลเซียม สำคัญกับร่างกายอย่างไร? 6 รูปแบบแคลเซียม

บทความสุขภาพ โดย เภสัชกร มดน้อย นวพร สุขเดโชสว่าง
enel calcium l-threonate
 
ความสำคัญของแคลเซียม
1) เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกและฟัน 
2) ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือด หยุดไหลเวลาเกิดบาดแผล
3)  ช่วยในการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจให้เป็นปกติ 
 
อาการที่บ่งบอกว่าร่างกายขาดแคลเซียม 
– อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ
– เป็นตะคริว กล้ามเนื้อเกร็ง กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อกระตุก 
– อาการชา เสียวหรือปวดคล้ายถูกเข็มแทงตามใบหน้า ปาก มือ หรือเท้า
– สั่น หรือทรงตัวลำบาก 
– กระดูกพรุน กระดูกบาง กระดูกหักง่าย
– มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ
–  เล็บเปราะบาง
–  ผมยาวช้า ผิวหนังบางหรือแห้ง 
– มีอารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น รู้สึกวิตกกังวล สับสน ซึมเศร้า หงุดหงิด เป็นต้น
 
 
จำเป็นต้องทานแคลเซียมเสริมในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือไม่ ?
จากผลสำรวจพบว่า คนไทยได้รับแคลเซียมจากอาหาร น้อยมากเฉลี่ยเพียงวันละ 361 มิลลิกรัม( ที่มาจาก เดลินิวส์ ฉบับวันที่24 ธันวาคม 2561)
ในขณะที่ความต้องการแคลเซียมปกติของร่างกาย 1,000 มิลลิกรัม นอกจากนี้ รศ.นพ.นรัตถพล  แพทย์ผู้คว้าผลงานวิจัย ม.มหิดล ระบุว่าคนไทยประมาณ 50% ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอในแต่ละวัน
(ที่มา สสส สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ 27 มิถุนายน 2554  ) 
 
ทั้งนี้ แม้ว่า “นมวัว” จะเป็นแหล่งที่มีแคลเซียมสูง แต่คนเอเชียและคนไทย มีอัตราการแพ้น้ำตาลแลคโตสในนมสูงกว่า 50% และแนวโน้มเพิ่มขึ้น  (อาการท้องเสีย ท้องอืด ปวดท้อง หลังบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมวัว)   ทำให้ไม่ได้รับแคลเซียมจากการบริโภคนมวัวอย่างเพียงพอ 
 
ดังนั้นการทานแคลเซียมในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ  
 
 
ผลข้างเคียงจากการทานแคลเซียมเสริม ?
พบได้ในแคลเซียมที่มีการดูดซึมไม่ดีหรือดูดซึมน้อย เช่น  แคลเซียมคาร์บอเนต , แคลเซียมซิเตรต ,แคลเซียมกลูโคเนต   โดยอาการที่พบคือ ท้องผูก ปวดท้อง แน่นท้อง มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก(พบมากในแคลเซียมเม็ดฟู่ )  นอกจากนี้ผลข้างเคียงในระยะยาว  ที่พบได้คือ หินปูนเกาะตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย , นิ่วที่ไต, หินปูนในหลอดเลือด 
ในท้องตลาดส่วนใหญ่ยังเป็นแคลเซียมรุ่นเก่า ทำให้มีคำเตือนว่า ก่อนทานแคลเซียม ต้องปรึกษาแพทย์และเภสัชกร ไม่ควรซื้อมาทานเอง 
 
แต่ ณ ปัจจุบันมีการค้นพบแคลเซียมชนิดใหม่ ได้จากอาหารธรรมชาติ  เช่น แคลเซียมจากข้าวโพด ,แคลเซียมจากปลา, แคลเซียมจากปะการัง และที่ไม่มีผลข้างเคียงดังที่กล่าวมาข้างต้น  ผู้บริโภคสามารถหาซื้อทานเองได้อย่างปลอดภัย แต่หาซื้อยากกว่า และราคาจะสูงกว่าแคลเซียมรุ่นเก่า
 
รูปแบบของผลิตภัณฑ์แคลเซียม 
ปัจจุบันมีแคลเซียม ที่เป็นรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำนวนมาก  และชื่อเรียกก็แตกต่างกัน  ผู้บริโภคสามารถสังเกตได้เองง่ายๆ โดยการอ่านฉลากด้านหลังของผลิตภัณฑ์   
 
1) แคลเซียมคาร์บอเนต มีมากที่สุดในท้องตลาด รวมถึงใช้ รพ.เพราะหาง่าย ราคาถูก ทำจากหินปูนหรือกระดูกสัตว์ป่น ไม่ละลายน้ำ  ต้องอาศัยกรดในกระเพาะช่วยให้ละลายและแตกตัวก่อนดูดซึม ให้ปริมาณแคลเซียม 40% แต่ดูดซึมสุดท้ายได้ 10%  ดังนั้นถ้าทานแคลเซียมคาร์บอเนต 1,500 มิลลิกรัม/เม็ด จะได้แคลเซียม 600 มิลลิกรัม และดูดซึมเข้าสู่ร่างกายสุดท้ายได้ 60 มิลลิกรัม 
 
 2) แคลเซียมซิเตรต ทำจากนม  ให้ปริมาณแคลเซียม 21% แต่ดูดซึมสุดท้ายได้  50% ควรทานหลังอาหารเช่นเดียวกับแคลเซียมคาร์บอเนต เพื่อให้กรดในกระเพาะอาหารช่วยการละลายและแตกตัว
  
3) แคลเซียมกลูโคเนต ให้ปริมาณแคลเซียมค่อนข้างต่ำ 9%  จึงไม่ค่อยนิยมมากนัก 
ปัจจุบันมักใช้เป็นยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ 
 
4) แคลเซียมอะมิโน แอซิต คีเลต เป็นฟอร์ม แคลเซียม รวมกับกรดอะมิโน ละลายน้ำได้ดี ดูดซึมได้ 80-90%  
 
บทความสุขภาพ โดย เภสัชกร มดน้อย นวพร สุขเดโชสว่าง
5)  แคลเซียมแอลทรีโอเนต จัดเป็นวิตามินแคลเซียม เพราะได้จากกระบวนการผลิตวิตามินซีในข้าวโพด เป็นแคลเซียมที่วงการแพทย์ anti-aging (เวชศาสตร์ชะลอวัย) ให้การยอมรับมากที่สุด เพราะมีงานวิจัยสากลที่รับรอง และมีการอ้างอิงในฐานข้อมูลใหญ่ทางการแพทย์ คือ pubmed คุณสมบัติการละลายน้ำดีและการดูดซึมดีมาก 90-95% ไม่ตกค้างในร่างกายไม่ต้องอาศัยกรดในกระเพาะอาหารช่วยในการดูดซึม ไม่ต้องใช้วิตามินดีช่วยในการดูดซึม จึงทานเวลาใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทานหลังอาหารเหมือนแคลเซียมรุ่นเก่า 
 
ข้อดีของแคลเซียมแอลทรีโอเนต
ที่ดีกว่าแคลเซียมชนิดอื่นๆ คือ นอกจากจะเป็นแคลเซียมจากอาหารธรรมชาติ ดูดซึมได้ดีแล้ว  งานวิจัยพบว่าสามารถช่วยสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย เพราะมี แอลทรีโอเนต เป็น active metabolite ของวิตามินซี ทำหน้าที่เพิ่มปริมาณวิตามินซี ซึ่งจะช่วยกระบวนการสร้างคอลลาเจนที่กระดูกแข็ง  และสร้างคอลลาเจนที่กระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ ทำให้กระดูกอ่อนที่ข้อต่อที่สึกกร่อนจากภาวะข้อเสื่อม ได้รับการซ่อมแซม กระดูกอ่อนจึงทำหน้าที่สร้างน้ำเลี้ยงไขข้อตามปกติได้  ดังนั้นแคลเซียมแอลทรีโอเนต จึงได้ผลดีในการดูแลข้อเข่าเสื่อมด้วย 
 
ผลข้างเคียงของแคลเซียมแอลทรีโอเนต 
ไม่พบผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ 
เพราะไม่ตกค้างในร่างกาย และเป็นสารที่อยู่ในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว 
 
6)แคลเซียมจากอาหารธรรมชาติอื่นๆ เช่น
-แคลเซียมจากปะการัง ก็เป็นแคลเซียมจากธรรมชาติอีกรูปแบบหนึ่งที่มีการดูดซึมที่ดี แต่นักวิชาการบางท่านยังไม่สนับสนุนมากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่อยากให้เกิดการทำลายธรรมชาติ 
-แคลเซียมจากปลา คือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite)  
เป็นสารอนินทรีย์ซึ่งเป็นองค์ประกอบในกระดูก ร่างกายดูดซึมได้ดี เช่นเดียวกับแคลเซียมจากอาหารธรรมชาติอื่นๆ

.

References (เอกสารอ้างอิง) 

1) Wang HY, Hu P, Jiang J. Pharmacokinetics and safety of calcium L-threonate in healthy volunteers after single and multiple oral administrations. Acta Pharmacol Sin 2011;32:1555-60.

2) European Food Safety Authority (EFSA). Opinion on calcium L-threonate for use as a source of calcium in food supplements. EFSA J 2008;866:1-20.

3) NIH Consensus Development Panel on Optimal Calcium Intake. (1994). OptimalCalcium Intake. JAMA. 272, 1942-1948.

4) Densupsooontorn N, Jirapinyo P, Thamonsiri, et al. Lactose intorelance in Thai adults. J Med Assoc Thai. 2004; 12: 1501-5 

5) medthai แคลเซียมกลูโคเนต 
 
6) Bangkok hospital  รู้จักแคลเซียมให้ดีกว่าเดิม
 

เรียบเรียงข้อมูล โดย ภญ.มหิดล นวพร สุขเดโชสว่าง (เภสัชกรมดน้อย)

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

error: Content is protected !!